เป็นเรื่องที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก IoT เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตและเครือข่าย ทำให้เกิดข้อมูลจำนวนมหาศาลและการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ดังนั้น โครงข่าย IT ที่มีประสิทธิภาพสูงจึงมีความจำเป็นต่อการรองรับการเชื่อมต่อในระบบ IoT นี่คือเหตุผลสำคัญที่เครือข่ายมีบทบาทสำคัญในยุค IoT: Internet of Things
IoT ทำให้มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น สมาร์ทโฟน, เซนเซอร์, กล้องวงจรปิด, อุปกรณ์สวมใส่ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ต การรองรับการเชื่อมต่อในปริมาณมากนั้นจำเป็นต้องใช้โครงข่ายที่สามารถรับมือกับทราฟฟิกสูงและมั่นคงในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์เหล่านี้
อุปกรณ์ IoT สร้างข้อมูลมหาศาลในรูปแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเหล่านี้จำเป็นต้องมีโครงข่ายที่รวดเร็วและมีความสามารถในการประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การส่งข้อมูลจากเซนเซอร์ในโรงงานผลิต การจัดการการจราจรในเมือง หรือการสื่อสารของอุปกรณ์ในบ้านอัจฉริยะ
เครือข่ายในยุค IoT ต้องการความหน่วงต่ำในการส่งข้อมูล (Low Latency) โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เช่น ในระบบยานพาหนะไร้คนขับ หรือในระบบสุขภาพที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์จากอุปกรณ์ทางการแพทย์ โครงข่ายที่สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็วจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
IoT ทำให้มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดช่องโหว่ทางความปลอดภัยมากขึ้น เครือข่ายจึงต้องมีการป้องกันที่เข้มงวด เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การควบคุมการเข้าถึง การตรวจสอบเครือข่ายแบบต่อเนื่อง และแนวคิดการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust เพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอกและภายใน
Edge Computing เข้ามามีบทบาทสำคัญใน IoT เพราะช่วยลดความหน่วงและแบนด์วิธในการส่งข้อมูลไปยังศูนย์กลางประมวลผล ข้อมูลจะถูกประมวลผลใกล้กับที่มาของข้อมูลมากขึ้น เช่น การประมวลผลข้อมูลในอุปกรณ์ IoT ที่ติดตั้งในเครื่องจักรอุตสาหกรรมหรือเซนเซอร์ในฟาร์มอัจฉริยะ เครือข่าย Edge ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและลดภาระการส่งข้อมูลไปกลับ
การจัดการทราฟฟิกของอุปกรณ์ IoT มีความซับซ้อนกว่าการจัดการทราฟฟิกของอุปกรณ์แบบเดิมๆ การจัดสรรทรัพยากรเครือข่ายอย่างเหมาะสมและการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลจะช่วยให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพในการรองรับทราฟฟิกที่เพิ่มขึ้นจากอุปกรณ์ IoT หลายล้านเครื่องที่ทำงานพร้อมกัน
IoT เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานแบบอัตโนมัติในหลายอุตสาหกรรม เช่น ระบบ Smart Manufacturing, Smart Agriculture และ Smart Homes เครือข่ายที่รองรับ IoT จะต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวตามการทำงานอัตโนมัติในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อุปกรณ์ IoT บางส่วนมีข้อจำกัดด้านพลังงาน เช่น เซนเซอร์ที่ต้องใช้งานในระยะยาวโดยไม่สามารถชาร์จไฟได้ เครือข่ายที่มีการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดการใช้พลังงานและทำให้ IoT ทำงานได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลานาน
ความต้องการลดการใช้พลังงานและการสร้างเครือข่ายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มขึ้นในยุค IoT เครือข่ายที่รองรับการประหยัดพลังงานและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเครือข่ายอัจฉริยะในอนาคต
5G เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อน IoT โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายล้านตัวพร้อมกัน ด้วยความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เครือข่าย 5G จะช่วยส่งเสริมการทำงานของ IoT ในการเชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลในระบบอัตโนมัติ การแพทย์, การขนส่ง และอุตสาหกรรมต่างๆ
สรุปเข้าใจง่ายๆจากพวกเรา OzoneNet เครือข่ายในยุค IoT มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่ออุปกรณ์และการจัดการข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล การพัฒนาโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และรองรับการขยายตัวในอนาคตจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ IoT สามารถสร้างนวัตกรรมและการใช้งานที่หลากหลายในโลกธุรกิจและชีวิตประจำวัน